กรุงเทพฯ. หลังจากที่เปิดตัวรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้ารุ่นแรก พร้อมการตอบรับอย่างดียิ่งจากแฟน ๆ ในไทย มินิ ประเทศไทย รุกต่อเนื่องรับกระแสการขับเคลื่อนด้วยยานยนต์ไฟฟ้าในกลุ่มพรีเมียมคอมแพค ด้วยการเปิดตัว “มินิ Electric Collection Edition” (multitone roof) เสริมความโดดเด่นด้วยหลังคาเฉดสีพิเศษ กับตัวถังสีใหม่ ได้แก่ สีเทา Rooftop Grey Metallic และ สีน้ำเงิน Island Blue Metallic ให้ความสปอร์ตมากขึ้น และการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมความสนุกเร้าใจสไตล์โกคาร์ท
ในตำนาน และยังคงผสานประสิทธิภาพแห่งการขับขี่ โลดแล่นไปสู่อนาคตที่ดียิ่งขึ้นด้วยพลังงานสะอาด โดย มินิ Electric Collection Edition นี้มาให้ลูกค้าในไทยได้เป็นเจ้าของ จำนวนจำกัดเพียง 40 คันเท่านั้น
ในราคา 2,459,000 บาท พร้อมแพ็คเกจ MSI standard
คุณประภัสรา อร่ามวงศ์สมุทร ผู้อำนวยการ มินิ ประเทศไทย กล่าวว่า “นอกจากการเป็นผู้บุกเบิกยนตรกรรมไฟฟ้าสำหรับการขับขี่ในตัวเมืองในเซกเมนต์พรีเมียมคอมแพค เรายังเป็นผู้ริเริ่มด้านนวัตกรรมของการดีไซน์หลังคาที่ไม่ซ้ำใครอีกด้วย นอกจาก ‘มินิ Electric Collection Edition’ จะสะท้อนการรังสรรค์ความเป็นมินิได้อย่างสมบูรณ์แบบ หลังคาเฉดสีที่ไล่เรียงกันใน 3 เฉดสีอย่างกลมกลืนนี้ยังสื่อถึงตำนานความหลากหลายทางสีสันซึ่งมินิได้สืบทอดมาอย่างยาวนาน รวมถึงเอกลักษณ์ของการออกแบบที่คัดสรรมาสำหรับรุ่น multitone roof ซึ่งผสานกันอย่างสวยงามลงตัวกับสีของตัวถังรถ ด้านสมรรถนะของการขับขี่ก็ยังคงไว้ซึ่งความสนุกสนานเฉพาะตัวในแบบมินิ พร้อมให้ประสบการณ์ในการก้าวไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน และยังตอบโจทย์การเดินทางภายในเมืองที่สะอาด ปลอดมลพิษเช่นเดิม”
เทคนิคการทำสีแบบใหม่โดยโรงงานรถยนต์มินิ ที่ประเทศอังกฤษในเมืองอ็อกซ์ฟอร์ด ทำให้เกิดปรากฏการณ์การสร้างสรรค์สีของหลังคาแบบไล่โทนสี หรือ multitone roof โดยเริ่มจากการลงสีอ่อนอย่างสีฟ้า Pearly Aqua เป็นสีแรก จากนั้นจึงใช้สีน้ำเงิน San Marino Blue แต่งแต้มบริเวณด้านหน้าของหลังคาและสีดำ Jet Black ที่ด้านหลัง ทำให้เกิดการไล่สีที่มีลักษณะพิเศษของ Multitone Roof ซึ่งกระบวนการพ่นสีที่เป็นนวัตกรรมใหม่นี้ได้ผนวกรวมเข้ากับกระบวนการผลิตที่โรงงานมินิ ในเมืองอ็อกซ์ฟอร์ดอย่างสมบูรณ์ ทั้งนี้การไล่โทนสีในแต่ละคันอาจมีความแตกต่างกันเล็กน้อยจากขั้นตอนการลงสีในกระบวนการผลิต สร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่ซ้ำใครให้แก่รถยนต์มินิแต่ละคันที่เป็น Multitone Roof
นอกจากการพัฒนาด้านนวัตกรรมและการขับขี่แล้ว มินิยังได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิด Big Love ซึ่งเกิดจากทัศนคติเชิงบวกต่อการใช้ชีวิต และการสร้างแรงบันดาลใจในทุกสิ่งที่ทำทั้งต่อเพื่อนมนุษย์และโลก เพื่อความยั่งยืนต่อไปในอนาคต จนเกิดเป็นความร่วมมือกับ 3 ศิลปินนักวาดภาพประกอบชั้นนำของไทยซึ่งล้วนแสดงผลงานในเวทีระดับโลกและร่วมงานกับแบรนด์ระดับโลกมาแล้ว ในการผสมผสานไลฟ์สไตล์สู่งานศิลปะภายใต้แนวคิดดังกล่าว ซึ่งได้จัดแสดงผลงานสร้างสีสันในงานเปิดตัวมินิ Electric Collection Edition ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลบนทีวีดีไซน์กรอบรูปสุดเก๋อย่าง The Frame และโปรเจ็คเตอร์พกพาอัจฉริยะใหม่ล่าสุด The Freestyle จากซัมซุง พันธมิตรของมินิ ประเทศไทย นำโดย
ปอม ชาน - คุณธัชมาพรรณ จันทร์จำรัสแสง ผู้สร้างสรรค์ผลงาน Love is Infinity หรือความรักเป็น
สิ่งที่ไม่มีวันสิ้นสุด เฉกเช่นเดียวกับการขับขี่ และท่องโลกอันกว้างใหญ่
สิ่งที่ไม่มีวันสิ้นสุด เฉกเช่นเดียวกับการขับขี่ และท่องโลกอันกว้างใหญ่
Bloody Hell Big Head หรือคุณเบนซ์ ธนวัต ศักดาวิษรักษ์ ด้วยผลงานอันเป็นเอกลักษณ์กับการใช้รูปทรงเรขาคณิตมาสร้างสรรค์เป็นภาพวาดกราฟฟิก ผ่านภาพวาด THE ROAD THAT CONNECT US ซึ่งเป็นการใช้ถนนเป็นตัวเชื่อมระหว่างผู้คน เพื่อเข้าถึงความหลากหลาย และ WE ARE THE UNIVERSE ซึ่งแสดงถึงความเท่าเทียมกันโดยไม่มีการแบ่งแยก
Juli Baker and Summer หรือคุณป่าน ชนารดี ฉัตรกุล ณ อยุธยา เจ้าของลายเส้นและงานออกแบบแสนสดใส และได้รับรางวัล Thailand Influencer Award 2019 ด้าน Art and Design จาก Tellscore นำเสนอผ่านภาพ CELEBRATE FREEDOM สะท้อนความหมายของ ‘Big Love’ และความหลากหลาย
ที่มองเห็นคุณค่าของสิทธิเสรีภาพของผู้คน ผ่านภาพสายรุ้ง นก ผีเสื้อ และดอกไม้
ลูกค้าที่สนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “มินิ Electric Collection Edition” (multitone roof) ได้ที่ www.mini.co.th หรือติดต่อผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของมินิทั่วประเทศ
ที่มองเห็นคุณค่าของสิทธิเสรีภาพของผู้คน ผ่านภาพสายรุ้ง นก ผีเสื้อ และดอกไม้
ลูกค้าที่สนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “มินิ Electric Collection Edition” (multitone roof) ได้ที่ www.mini.co.th หรือติดต่อผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของมินิทั่วประเทศ
COMMENTS