กรุงเทพฯ. บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย นำความเร้าใจและอิสระสู่นักบิดไทยอีกครั้งในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 38 ระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคม 2564 นี้ ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี
บีเอ็มดับเบิลยู R 18 First Edition มอเตอร์ไซค์ทัวริ่งครูสเซอร์เหนือกาลเวลา และบีเอ็มดับเบิลยู
บีเอ็มดับเบิลยู R 18 First Edition ใหม่ โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ที่สื่อถึงแก่นแท้ของมอเตอร์ไซค์ในแบบดั้งเดิม การออกแบบได้รับแรงบันดาลใจจากประวัติศาสตร์ต้นกำเนิดของแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด
ความคลาสสิกที่ข้ามผ่านกาลเวลานับทศทวรรษกลับมาให้ไบค์เกอร์ชาวไทยได้สัมผัสกันอีกครั้ง กับบีเอ็มดับเบิลยู R nineT Pure โดยหลังจากการเปิดตัวรุ่นแรกไปเมื่อปี 2556 บีเอ็มดับเบิลยู R nineT ก็กลายเป็นมอเตอร์ไซค์ที่เป็นตัวแทนของเอกลักษณ์อันคลาสสิก สอดประสานเทคโนโลยีทันสมัยและการออกแบบที่ละเอียดประณีต แต่ยังเปิดพื้นที่ให้ไบค์เกอร์สร้างความเฉพาะตัวด้วยการแต่งอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ เช่นบีเอ็มดับเบิลยู R nineT Pure มอเตอร์ไซค์โรดสเตอร์ในดีไซน์แบบเปลือย
สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู R nineT Pure ได้รับการยกระดับอย่างรอบด้าน ทั้งสมรรถนะ อุปกรณ์มาตรฐาน และตัวเลือกอุปกรณ์เสริมที่เพิ่มขึ้นอย่างมากจากรุ่นก่อนหน้า โดดเด่นด้วยเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ระบายความร้อนด้วยอากาศ/น้ำมันที่ได้มาตรฐาน EU5 สร้างแรงบิดได้ทรงพลังกว่าที่เคย แต่ลดการปล่อยมลพิษยิ่งกว่า
มาพร้อมโหมดการขับขี่แบบ Pro ระบบเบรก ABS Pro ระบบ Dynamic Brake Control ระบบ Dynamic Traction Control ระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อหลัง (MSR) ระบบกันสะเทือนใหม่แบบ WAD ที่ทั้งคล่องตัวและนุ่มนวลยิ่งกว่าขณะขับขี่ และไฟ LED ครบชุด
บีเอ็มดับเบิลยู R nineT Pure ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ระบายความร้อนด้วยอากาศและน้ำมัน ที่ได้รับการพัฒนาให้มีคุณสมบัติที่สอดคล้องตามมาตรฐานมลพิษ EU-5 ส่งพละกำลังสูงสุด 80 กิโลวัตต์ (109 แรงม้า) ที่ 7,250 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 116 นิวตันเมตรที่ 6,000 รอบต่อนาที หัวฉีดแบบใหม่ทำงานเข้าจังหวะกับระบบระบายความร้อนยิ่งขึ้น วาล์วปีกผีเสื้อและฝาครอบหัวฉีดได้รับการออกแบบใหม่ ส่งผลให้มอเตอร์ไซค์ R nineT ลดการปล่อยมลพิษได้มากกว่ารุ่นก่อนหน้าขณะที่ยังส่งพลังแรงบิดได้มากกว่าที่ความเร็วรอบปานกลาง (ที่ 4,000-6,000 รอบต่อนาที) จึงตอบสนองได้อย่างฉับไวระหว่างขับขี่
R nineT Pure มอเตอร์ไซค์โรดสเตอร์คลาสสิก สัญลักษณ์ของจิตวิญญาณอิสระซึ่งแสดงถึงปรัชญา
"Make Life a Ride" ของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด อย่างลงตัว และยังคงมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจอย่างต่อเนื่อง ผสมผสานการออกแบบที่โดดเด่น การควบคุมที่เฉียบคม และเทคโนโลยีล้ำสมัย ทั้งยังเตรียมมอบข้อเสนอพิเศษภายใต้แคมเปญ 3ASY RIDE สำหรับผู้ที่จองภายในงานอีกด้วย
บีเอ็มดับเบิลยู R 18 First Edition
ราคาจำหน่าย: 1,150,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
"Make Life a Ride" ของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด อย่างลงตัว และยังคงมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจอย่างต่อเนื่อง ผสมผสานการออกแบบที่โดดเด่น การควบคุมที่เฉียบคม และเทคโนโลยีล้ำสมัย ทั้งยังเตรียมมอบข้อเสนอพิเศษภายใต้แคมเปญ 3ASY RIDE สำหรับผู้ที่จองภายในงานอีกด้วย
บีเอ็มดับเบิลยู R 18 First Edition
ราคาจำหน่าย: 1,150,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
บีเอ็มดับเบิลยู R 18 First Edition ใหม่ โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ที่สื่อถึงแก่นแท้ของมอเตอร์ไซค์ในแบบดั้งเดิม การออกแบบได้รับแรงบันดาลใจจากประวัติศาสตร์ต้นกำเนิดของแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด
จึงมอบกลิ่นอายความคลาสสิคได้อย่างถึงอารมณ์ด้วยชิ้นส่วนแฮนด์เมดต่าง ๆ ที่ล้วนตอกย้ำถึงความเรียบง่ายที่ยังคงตอบโจทย์การใช้งานในทุกองค์ประกอบ สัดส่วนที่ลงตัวของบีเอ็มดับเบิลยู R 18 First Edition ยังได้รับแรงบันดาลใจจากมอเตอร์ไซค์คลาสสิกรุ่นพี่อย่างบีเอ็มดับเบิลยู R 5 ถ่ายทอดออกมาเป็นเอกลักษณ์ความงามที่ก้าวข้ามกาลเวลาด้วยดีไซน์เปลือยสะกดสายตา
เครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 2 สูบขนาดใหญ่ยังคงเป็นหัวใจหลักของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด รวมทั้งบีเอ็ม
ดับเบิลยู R 18 First Edition ด้วยเช่นกัน โดยเครื่องยนต์ 1,802 ซีซีนี้มอบพละกำลังที่เหนือกว่าด้วยกำลังขับสูงสุด 67 กิโลวัตต์ / 91 แรงม้า ที่ 4,750 รอบต่อนาที ส่งแรงบิดสูงสุด 158 นิวตันเมตร ที่ 3,000 รอบต่อนาที และส่งแรงบิดมากกว่า 150 นิวตันเมตรในระหว่าง 2,000 ถึง 4,000 รอบต่อนาที ระบบช่วงล่างของตัวรถ โดดเด่นด้วยโครงสร้างเหล็กกล้าสองชั้น คงความคลาสสิกด้วยการใช้ช่วงล่างแบบเทเลสโคปิกแทนการควบคุมด้วยไฟฟ้า โดยมีคานรับน้ำหนักกลางที่สามารถปรับตั้งค่าความหนืดและการยุบตัวของสปริงได้ เพื่อการควบคุมที่เฉียบคมและนุ่มสบาย ระบบดิสก์เบรกคู่ที่ล้อหน้า ดิสก์เบรกเดี่ยวที่ล้อหลัง และคาลิเปอร์เบรกแบบตายตัว 4 ลูกสูบ พร้อมล้อซี่ลวด 19 นิ้วที่เสริมลุคของบีเอ็มดับเบิลยู R 18 First Edition ให้คลาสสิกโดดเด่นยิ่งขึ้น
บีเอ็มดับเบิลยู R 18 First Edition ยังพิเศษด้วย 3 โหมดการขับขี่ที่เหนือระดับกว่ารุ่นอื่น ๆ ในเซกเมนต์เดียวกัน ได้แก่ “Rain”, “Roll” และ “Rock” ให้เลือกปรับตามความชอบเฉพาะตัว พร้อมเทคโนโลยีด้านการขับขี่ที่ครบครันมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นการเสริมความปลอดภัยด้วยฝาถังน้ำมันเชื้อเพลิงพร้อมระบบล็อก ระบบควบคุมการทรงตัวแบบอัตโนมัติ (ASC) ระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อหลัง (MSR) จากการชะลอตัวหรือลดเกียร์ และระบบช่วยออกตัวในทางลาดชัน (Hill Start Control) ผสานความล้ำสมัยจากยุคปัจจุบันไว้ด้วยเทคโนโลยี เช่น ระบบสตาร์ทแบบไร้กุญแจ (Keyless Ride) ระบบเกียร์ถอยหลัง (Reverse Gear) ระบบสัญญาณกันขโมย ระบบป้องกันรถกระชาก (Anti-hopping Clutch) ระบบ Dynamic Brake Control มาเป็นมาตรฐานอีกด้วย
การออกแบบของบีเอ็มดับเบิลยู R 18 First Edition ประสานเอกลักษณ์ความคลาสสิกเข้ากับองค์ประกอบต่าง ๆ ที่สะดุดตา ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างเหล็กกล้าสองชั้น ถังน้ำมันทรงหยดน้ำ เพลาแบบเปิดเปลือย พร้อมเสริมลูกเล่นดีไซน์ด้วยการทำสีแบบลายเส้นบนตัวถังเป็น สอดแทรกกลิ่นอายความล้ำสมัยด้วยมาตรวัดความเร็วแบบอนาล็อกทรงกลม พร้อมไฟเลี้ยวที่ติดตั้งอย่างกลมกลืน รวมทั้งไฟหน้า Adaptive LED แบบใหม่ พร้อมระบบ Daytime Riding light และ Headlight Pro
ประวัติศาสตร์สุดคลาสสิกของมอเตอร์ไซค์ทัวริ่งยังสะท้อนผ่านชุดแต่งเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะรุ่นของ R 18 First Edition ไม่ว่าจะเป็นตัวถังในสีดำ Black Storm Metallic ตัดกับลายเส้นสีขาว ชิ้นส่วนโครเมียม ลูกเล่นป้ายสลัก BMW บนเบาะที่นั่ง และป้ายสลักโครเมียม “First Edition” ข้างตัวถัง
เครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 2 สูบขนาดใหญ่ยังคงเป็นหัวใจหลักของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด รวมทั้งบีเอ็ม
ดับเบิลยู R 18 First Edition ด้วยเช่นกัน โดยเครื่องยนต์ 1,802 ซีซีนี้มอบพละกำลังที่เหนือกว่าด้วยกำลังขับสูงสุด 67 กิโลวัตต์ / 91 แรงม้า ที่ 4,750 รอบต่อนาที ส่งแรงบิดสูงสุด 158 นิวตันเมตร ที่ 3,000 รอบต่อนาที และส่งแรงบิดมากกว่า 150 นิวตันเมตรในระหว่าง 2,000 ถึง 4,000 รอบต่อนาที ระบบช่วงล่างของตัวรถ โดดเด่นด้วยโครงสร้างเหล็กกล้าสองชั้น คงความคลาสสิกด้วยการใช้ช่วงล่างแบบเทเลสโคปิกแทนการควบคุมด้วยไฟฟ้า โดยมีคานรับน้ำหนักกลางที่สามารถปรับตั้งค่าความหนืดและการยุบตัวของสปริงได้ เพื่อการควบคุมที่เฉียบคมและนุ่มสบาย ระบบดิสก์เบรกคู่ที่ล้อหน้า ดิสก์เบรกเดี่ยวที่ล้อหลัง และคาลิเปอร์เบรกแบบตายตัว 4 ลูกสูบ พร้อมล้อซี่ลวด 19 นิ้วที่เสริมลุคของบีเอ็มดับเบิลยู R 18 First Edition ให้คลาสสิกโดดเด่นยิ่งขึ้น
บีเอ็มดับเบิลยู R 18 First Edition ยังพิเศษด้วย 3 โหมดการขับขี่ที่เหนือระดับกว่ารุ่นอื่น ๆ ในเซกเมนต์เดียวกัน ได้แก่ “Rain”, “Roll” และ “Rock” ให้เลือกปรับตามความชอบเฉพาะตัว พร้อมเทคโนโลยีด้านการขับขี่ที่ครบครันมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นการเสริมความปลอดภัยด้วยฝาถังน้ำมันเชื้อเพลิงพร้อมระบบล็อก ระบบควบคุมการทรงตัวแบบอัตโนมัติ (ASC) ระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อหลัง (MSR) จากการชะลอตัวหรือลดเกียร์ และระบบช่วยออกตัวในทางลาดชัน (Hill Start Control) ผสานความล้ำสมัยจากยุคปัจจุบันไว้ด้วยเทคโนโลยี เช่น ระบบสตาร์ทแบบไร้กุญแจ (Keyless Ride) ระบบเกียร์ถอยหลัง (Reverse Gear) ระบบสัญญาณกันขโมย ระบบป้องกันรถกระชาก (Anti-hopping Clutch) ระบบ Dynamic Brake Control มาเป็นมาตรฐานอีกด้วย
การออกแบบของบีเอ็มดับเบิลยู R 18 First Edition ประสานเอกลักษณ์ความคลาสสิกเข้ากับองค์ประกอบต่าง ๆ ที่สะดุดตา ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างเหล็กกล้าสองชั้น ถังน้ำมันทรงหยดน้ำ เพลาแบบเปิดเปลือย พร้อมเสริมลูกเล่นดีไซน์ด้วยการทำสีแบบลายเส้นบนตัวถังเป็น สอดแทรกกลิ่นอายความล้ำสมัยด้วยมาตรวัดความเร็วแบบอนาล็อกทรงกลม พร้อมไฟเลี้ยวที่ติดตั้งอย่างกลมกลืน รวมทั้งไฟหน้า Adaptive LED แบบใหม่ พร้อมระบบ Daytime Riding light และ Headlight Pro
ประวัติศาสตร์สุดคลาสสิกของมอเตอร์ไซค์ทัวริ่งยังสะท้อนผ่านชุดแต่งเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะรุ่นของ R 18 First Edition ไม่ว่าจะเป็นตัวถังในสีดำ Black Storm Metallic ตัดกับลายเส้นสีขาว ชิ้นส่วนโครเมียม ลูกเล่นป้ายสลัก BMW บนเบาะที่นั่ง และป้ายสลักโครเมียม “First Edition” ข้างตัวถัง
บีเอ็มดับเบิลยู R nineT Pure
ราคาจำหน่าย: 739,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
ความคลาสสิกที่ข้ามผ่านกาลเวลานับทศทวรรษกลับมาให้ไบค์เกอร์ชาวไทยได้สัมผัสกันอีกครั้ง กับบีเอ็มดับเบิลยู R nineT Pure โดยหลังจากการเปิดตัวรุ่นแรกไปเมื่อปี 2556 บีเอ็มดับเบิลยู R nineT ก็กลายเป็นมอเตอร์ไซค์ที่เป็นตัวแทนของเอกลักษณ์อันคลาสสิก สอดประสานเทคโนโลยีทันสมัยและการออกแบบที่ละเอียดประณีต แต่ยังเปิดพื้นที่ให้ไบค์เกอร์สร้างความเฉพาะตัวด้วยการแต่งอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ เช่นบีเอ็มดับเบิลยู R nineT Pure มอเตอร์ไซค์โรดสเตอร์ในดีไซน์แบบเปลือย
สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู R nineT Pure ได้รับการยกระดับอย่างรอบด้าน ทั้งสมรรถนะ อุปกรณ์มาตรฐาน และตัวเลือกอุปกรณ์เสริมที่เพิ่มขึ้นอย่างมากจากรุ่นก่อนหน้า โดดเด่นด้วยเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ระบายความร้อนด้วยอากาศ/น้ำมันที่ได้มาตรฐาน EU5 สร้างแรงบิดได้ทรงพลังกว่าที่เคย แต่ลดการปล่อยมลพิษยิ่งกว่า
มาพร้อมโหมดการขับขี่แบบ Pro ระบบเบรก ABS Pro ระบบ Dynamic Brake Control ระบบ Dynamic Traction Control ระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อหลัง (MSR) ระบบกันสะเทือนใหม่แบบ WAD ที่ทั้งคล่องตัวและนุ่มนวลยิ่งกว่าขณะขับขี่ และไฟ LED ครบชุด
บีเอ็มดับเบิลยู R nineT Pure ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ระบายความร้อนด้วยอากาศและน้ำมัน ที่ได้รับการพัฒนาให้มีคุณสมบัติที่สอดคล้องตามมาตรฐานมลพิษ EU-5 ส่งพละกำลังสูงสุด 80 กิโลวัตต์ (109 แรงม้า) ที่ 7,250 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 116 นิวตันเมตรที่ 6,000 รอบต่อนาที หัวฉีดแบบใหม่ทำงานเข้าจังหวะกับระบบระบายความร้อนยิ่งขึ้น วาล์วปีกผีเสื้อและฝาครอบหัวฉีดได้รับการออกแบบใหม่ ส่งผลให้มอเตอร์ไซค์ R nineT ลดการปล่อยมลพิษได้มากกว่ารุ่นก่อนหน้าขณะที่ยังส่งพลังแรงบิดได้มากกว่าที่ความเร็วรอบปานกลาง (ที่ 4,000-6,000 รอบต่อนาที) จึงตอบสนองได้อย่างฉับไวระหว่างขับขี่
มาพร้อมระบบเบรก ABS Pro และระบบ Dynamic Brake Control หรือ DBC ที่เสริมความปลอดภัยยิ่งขึ้น แม้ขณะเบรกในสภาวะการขับขี่ที่ยากลำบาก และยังมาพร้อมระบบกันสะเทือนใหม่ที่สามารถปรับตั้งค่าความหนืดและการยุบตัวของสปริงได้ (WAD) ช่วยให้ทรงตัวได้มั่นคงและเพิ่มความสบายในการขับขี่ ปรับการตั้งค่าสปริงได้อย่างง่ายดายด้วยปุ่มหมุนที่เพิ่มเข้ามา
โหมดการขับขี่แบบ Pro ยังติดตั้งมาเป็นมาตรฐานประกอบด้วยโหมดการขับขี่มาตรฐาน ได้แก่ โหมด Dyna โดยขณะขับขี่ด้วยโหมด Dyna ผู้ขับขี่จะได้สัมผัสความสปอร์ตยิ่งขึ้น จากการตั้งค่าเครื่องยนต์ให้ตอบสนองความเร็วได้ฉับไวเต็มพิกัด ส่วนระบบ Dynamic Brake Control หรือ DBC และ ABS Pro จะทำงานขณะขับขี่บนถนนที่มีแรงเสียดทานสูง เสริมความปลอดภัยยิ่งขึ้นเมื่อเร่งความเร็ว ในขณะที่ระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อหลัง (MSR) จากการชะลอตัวหรือลดเกียร์ ช่วยให้ควบคุมรถได้มั่นคงและแม่นยำยิ่งขึ้น
แบบฉบับความคลาสสิกของบีเอ็มดับเบิลยู R nineT เติมเต็มด้วยดีไซน์ที่ผสานความล้ำสมัยของ
ยุคปัจจุบัน อย่างมาตรวัดความเร็วแบบอนาล็อกทรงกลมในโคมโลหะคุณภาพสูง ฝังเอกลักษณ์โลโก้บีเอ็มดับเบิลยู ไฟเลี้ยวที่ออกแบบกลมกลืนไปกับตัวรถ ก่อนจะเด่นชัดขึ้นมาเฉพาะเวลาเปิดไฟเท่านั้น ไฟหน้า LED มาพร้อมไฟส่องสว่างตอนกลางวันและไฟเลี้ยวสีขาว เสริมความทันสมัยด้วยช่องเสียบสายชาร์จ USB บีเอ็มดับเบิลยู R nineT Pure มาในสี Mineral grey metallic พร้อมถังน้ำมันในสี Mineral grey metallic
แบบฉบับความคลาสสิกของบีเอ็มดับเบิลยู R nineT เติมเต็มด้วยดีไซน์ที่ผสานความล้ำสมัยของ
ยุคปัจจุบัน อย่างมาตรวัดความเร็วแบบอนาล็อกทรงกลมในโคมโลหะคุณภาพสูง ฝังเอกลักษณ์โลโก้บีเอ็มดับเบิลยู ไฟเลี้ยวที่ออกแบบกลมกลืนไปกับตัวรถ ก่อนจะเด่นชัดขึ้นมาเฉพาะเวลาเปิดไฟเท่านั้น ไฟหน้า LED มาพร้อมไฟส่องสว่างตอนกลางวันและไฟเลี้ยวสีขาว เสริมความทันสมัยด้วยช่องเสียบสายชาร์จ USB บีเอ็มดับเบิลยู R nineT Pure มาในสี Mineral grey metallic พร้อมถังน้ำมันในสี Mineral grey metallic
ข้อเสนอสุดพิเศษในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 38 กับแคมเปญ 3ASY RIDE
ลูกค้าที่จองมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด รุ่นที่กำหนดด้วยการผ่อนชำระ และมีกำหนดส่งมอบตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธันวาคม 2564 จะได้รับดอกเบี้ย 0% 5ปี* โปรแกรมบำรุงรักษา BMW Motorrad Service Inclusive ระยะเวลา 3 ปี* และการรับประกัน 5 ปี* พร้อมข้อเสนอพิเศษอีกมากมาย
ลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดที่ทำสัญญาทางการเงิน ‘3ASY RIDE’ ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปจะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมสำหรับมอเตอร์ไซค์รุ่นที่จัดแสดงในงานฯ ได้แก่:
ลูกค้าที่จองมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด รุ่นที่กำหนดด้วยการผ่อนชำระ และมีกำหนดส่งมอบตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธันวาคม 2564 จะได้รับดอกเบี้ย 0% 5ปี* โปรแกรมบำรุงรักษา BMW Motorrad Service Inclusive ระยะเวลา 3 ปี* และการรับประกัน 5 ปี* พร้อมข้อเสนอพิเศษอีกมากมาย
ลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดที่ทำสัญญาทางการเงิน ‘3ASY RIDE’ ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปจะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมสำหรับมอเตอร์ไซค์รุ่นที่จัดแสดงในงานฯ ได้แก่:
บีเอ็มดับเบิลยู C 400X ฟรี ดอกเบี้ย 0% 5 ปี และการรับประกัน 5 ปี
บีเอ็มดับเบิลยู F 900 R ฟรี ดอกเบี้ย 0% 5 ปี และการรับประกัน 5 ปี
บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 R / S 1000 XR ฟรี ดอกเบี้ย 0% 5 ปี และการรับประกัน 5 ปี
บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS ฟรี ดอกเบี้ย 0% 4 ปี และโปรแกรมบำรุงรักษา BMSI 3 ปี
บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR โปรแกรมบำรุงรักษา BMSI 3 ปี และประกันชั้นหนึ่ง 1 ปี
บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR โปรแกรมบำรุงรักษา BMSI 3 ปี และประกันชั้นหนึ่ง 1 ปี
บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS / R 1250 GSA ฟรี ดอกเบี้ย 0% 4 ปี และประกันชั้นหนึ่ง 1 ปี
*บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
บีเอ็มดับเบิลยู F 900 R ฟรี ดอกเบี้ย 0% 5 ปี และการรับประกัน 5 ปี
บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 R / S 1000 XR ฟรี ดอกเบี้ย 0% 5 ปี และการรับประกัน 5 ปี
บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS ฟรี ดอกเบี้ย 0% 4 ปี และโปรแกรมบำรุงรักษา BMSI 3 ปี
บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR โปรแกรมบำรุงรักษา BMSI 3 ปี และประกันชั้นหนึ่ง 1 ปี
บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR โปรแกรมบำรุงรักษา BMSI 3 ปี และประกันชั้นหนึ่ง 1 ปี
บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS / R 1250 GSA ฟรี ดอกเบี้ย 0% 4 ปี และประกันชั้นหนึ่ง 1 ปี
*บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
*ไม่รวมบีเอ็มดับเบิลยู C 650 GT, C 650 Sport, R 1250 RT และ K 1600
ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.bmw-motorrad.co.th หรือติดต่อผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ทั่วประเทศ
ติดตามข่าวประชาสัมพันธ์ www.BeyondDrive.com
COMMENTS