จีที-อาร์ รุ่นฉลองครบรอบ 50 ปี จำหน่ายในประเทศไทย มีราคาที่ 11.3 ล้านบาท พร้อมการรับประกัน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และการบริการแบบเอกซ์คลูซีฟโดย สยาม นิสสัน ทีเคเอฟฯ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นศูนย์บริการรถยนต์สมรรถนะสูงของ นิสสัน หรือ นิสสัน ไฮเพอร์ฟอร์มานศ์ เซนเตอร์ (Nissan High Performance Center) แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เพื่อให้บริการลูกค้าอย่างดีที่สุด
ราเมช นาราสิมัน ประธาน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จีที-อาร์ รุ่นฉลองครบรอบ 50 ปี หนึ่งในซูเพอร์สปอร์ทที่เป็นไอคอนอันโดดเด่นที่สุดของ นิสสัน มาสู่ประเทศไทย ด้วยราคาที่น่าประทับใจ ตามที่ตั้งใจไว้ อีกทั้งเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าชาวไทย อันถือเป็นหัวใจสำคัญในทุกๆ อย่างที่ทำ ซึ่งรวมถึงการนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ระดับโลกสู่ตลาดในประเทศไทย
จีที-อาร์ รุ่นพิเศษนี้ มาในรูปแบบของการผสมผสาน สีภายนอกแบบทูโทนที่สืบทอดกันมาถึง 3 ยุค สื่อถึงความพิเศษของ จีที-อาร์ จากการแข่ง Japanese Grand Prix ด้วยโทนสีฟ้าที่เรียกว่า Bayside Blue กลับมาอีกครั้งพร้อมกับลายทางสีขาว ผ่านกระบวนการทำสีถึง 4 ชั้น ด้วยการอบความร้อนถึง 2 ครั้ง ช่วยให้สีฟ้าโดดเด่นอย่างมีชีวิตชีวา พร้อมประกายสะดุดตาและให้เงาลึกมีมิติ ขณะที่สีฟ้าบนซี่ล้อจะมอบสัมผัสที่พรีเมียม แสดงการเฉลิมฉลองความสำเร็จครั้งสำคัญของ จีที-อาร์ นอกจากนี้ยังมีสีภายนอกอีก 2 สี ได้แก่ สีขาวมุก (Storm White) พร้อมแถบสีแดง และอัลทิเมท ซิลเวอร์ (Ultimate Silver) พร้อมแถบสีขาว ทั้งหมดมาพร้อมสัญลักษณ์ครบรอบ 50 ปี
ภายใน จีที-อาร์ รุ่นฉลองครบรอบ 50 ปีนี้ คือ การตกแต่งภายในสีเทาพิเศษที่ให้ความรู้สึกหรูหราภายในห้องโดยสาร ซึ่งชวนให้นึกถึงบรรยากาศของท้องฟ้ายามค่ำคืนหลังจากเวลาพลบค่ำ รวมถึงพวงมาลัยที่เป็นเอกลักษณ์ และการตกแต่งหัวเกียร์ ที่เบาะนั่ง พิมพ์ลายนูนที่ออกแบบพิเศษ ชิ้นส่วนที่หุ้มผนังด้านบนของรถใช้วัสดุแบบอัลคันทารา (Alcantara®) มีการตัดเย็บที่เป็นเอกลักษณ์ ที่บังแดดหุ้มด้วยวัสดุอัลคันทารา และอีกมากมาย
ฮิโรชิ ทามูระ ผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ จีที-อาร์ ของ นิสสัน กล่าวว่า "เรายังคงรักษาแนวคิดของ จีที-อาร์ รุ่นปี 2020 มุ่งเน้นไปที่การขับขี่ด้วยความเพลิดเพลิน หรือ Pursuing The Ultimate Driving Pleasure เมื่อลูกค้าสัมผัสพวงมาลัย พวกเขาจะรู้ทันทีว่า ไม่มีรถคันใดในโลกที่ให้ความพึงพอใจกับผู้ขับขี่ได้ทั้งทางร่างกายและจิตใจเท่านี้"
ขณะที่ผู้ที่ชื่นชอบหลายคนเชื่อว่า ความประณีตและสมรรถนะของ จีที-อาร์ ที่ให้พละกำลังสูงสุด 555 พีเอส ให้ แรงบิดสูงสุดที่ 632 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์แบบ วี 6 24 วาล์ว ขนาด 3.8 ลิตร ทวินเทอร์โบชาร์จ ประกอบด้วยมือ ยังมาจาก "ทาคูมิ" หรือ ช่างเทคนิคระดับสูงสุดและทีมวิศวกรของ จีที-อาร์ อันมีส่วนสำคัญ
จีที-อาร์ ใช้ระบบเกียร์แบบดูอัลคลัทช์ 6 จังหวะ ที่ได้รับการพัฒนาพร้อมโหมด "R" ที่ได้รับการปรับแต่งให้เหมาะกับการขับขี่ทั้งบนถนนและในสนามแข่ง ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์ลงมีความดุดันมากขึ้น สำหรับการเข้าโค้งได้อย่างรวดเร็วกว่าเดิม โดยการเปลี่ยนเกียร์เกิดขึ้นขณะเบรคเอบีเอสทำงาน จึงลดอาการอันเดอร์สเตียร์ (Understeer) และให้การควบคุมที่ง่ายยิ่งขึ้น ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์แบบแปรผันถูกตั้งพโรแกรมให้เปลี่ยนแผนการขับขี่ เพื่อให้เหมาะกับสไตล์การขับขี่ของเจ้าของรถ ทำให้สามารถขับขี่ได้ตามกฎหมายบนถนนสาธารณะ หรือขับขี่ด้วยความดุดันบนสนามแข่ง โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนโหมดด้วยตนเอง
ท่อไอเสียอันเป็นเอกลักษณ์ของ จีที-อาร์ ใช้เป็นไทเทเนียมแบบใหม่ เคลือบด้วยไทเทเนียมพร้อมปลายท่อสีฟ้าขัดเงา
ระบบช่วงล่างแบบควบคุมด้วยระบบอีเลคทรอนิคได้รับการพัฒนาเพื่อให้การเข้าโค้งที่มีเสถียรภาพ และการขับขี่ที่ราบรื่นยิ่งขึ้น ระบบบังคับเลี้ยวนั้นเป็นแบบเส้นตรง และมีความแม่นยำมากขึ้นกว่าเดิม ที่ให้การแก้ไขน้อยที่สุด ที่ความเร็วสูงสุดถึง 300 กม./ชม. (186 ไมล์/ชม.) หม้อลมเบรคใหม่เพิ่มการตอบสนองการเบรคเริ่มต้นด้วยการเหยียบคันเร่งที่สั้นลง ส่งผลให้ความสามารถในการหยุดรถมีเพิ่มขึ้น
ห้องโดยสารของ จีที-อาร์ เป็นการผสมผสานอย่างลงตัวของความหรูหราและความสปอร์ท บริเวณตำแหน่งคนขับที่สะดุดตา ที่นั่งที่สะดวกสบาย ทั้งผู้โดยสารด้านหน้าและด้านหลัง แผงควบคุมถูกออกแบบมาเพื่อถ่ายทอด "การลื่นไหลในแนวนอน" หรือ Horizontal Flow ให้ความรู้สึกมั่นคงสูงสำหรับผู้โดยสารที่นั่งด้านหน้า ที่นั่งถูกหุ้มด้วยหนังแบบ Nappa ที่คัดสรรมาชิ้นเดียวและไร้รอยต่อ ตัดเย็บอย่างประณีตด้วยความแม่นยำด้วยสไตล์ผู้ชำนาญการขั้นสูง หรือ ทาคูมิ (Takumi) แผงควบคุมกลางที่มาพร้อมการควบคุมเครื่องเสียง หน้าจอสัมผัส 8 นิ้ว ไอคอนขนาดใหญ่บนหน้าจอแสดงผล ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการขับขี่โดยไม่รบกวนสมาธิ
แป้นเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ติดตั้งบนพวงมาลัยสปอร์ท ให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ในระหว่างเลี้ยวโดยไม่ต้องละมือจากพวงมาลัย
นิสสัน จีที-อาร์ รุ่นปี 2020 ทั้งหมดมาพร้อมกับระบบเครื่องเสียง และการสื่อสารในตัว ให้เจ้าของรถลอค หรือปลดลอคประตูได้จากระยะไกล เปิดใช้งานการเตือนต่างๆ เรียกใช้บริการฉุกเฉิน หรือติดตามที่อยู่ของรถผ่านแอพพลิเคชันในสมาร์ทโฟน ระบบเสียงแบบพรีเมียมของ BOSE® มาพร้อมกับลำโพงประสิทธิภาพสูง 11 ตัวและ Active Sound Management เพื่อให้ประสบการณ์การขับขี่สนุกมากยิ่งขึ้น
ลูกค้าที่สนใจ จีที-อาร์ จะได้รับความอุ่นใจจากมาตรฐานการบริการหลังการขายแบบเอกซ์คลูซีฟของ นิสสัน โดยสยาม นิสสัน ทีเคเอฟ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นศูนย์บริการรถสมรรถนะสูงของ นิสสัน หรือ นิสสัน ไฮเพอร์ฟอร์มานศ์ เซนเตอร์ (Nissan High Performance Center) แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เพื่อให้บริการลูกค้าและดูแลยนตรกรรมที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่างดีที่สุด
"มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 36" จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน-10 ธันวาคม 2562 ที่ Impact ชาลเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี
COMMENTS