++++ ส่งผลให้มีกำลังการผลิตที่สามารถแข่งขันได้มากกว่า 180,000 ตันและสร้างความแข็งแกร่งของบริษัทในตลาดอินโดนีเซียที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ในการซื้อกิจการดังกล่าว มิชลินร่วมกับ Indomobil และนักลงทุนเอกชนจะซื้อหุ้นค้าปลีกจำนวน 20 เปอร์เซ็นต์จาก PT Penta Artha Impressi (“Penta”) ด้วย ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการตลาดและการขายของแบรนด์กลุ่มมิชลินในอินโดนีเซียให้เพิ่มสูงขึ้น ช่วยให้มิชลินรักษาการเข้าถึงที่สำคัญๆ ในตลาดส่วนใหญ่ไว้ได้ และจะอยู่ในตำแหน่งที่ได้รับผลประโยชน์จากการเติบโตและการขยายตัวในอนาคตของตลาดได้เป็นอย่างดี
Jean-Dominique Senard ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มมิชลินกล่าวว่า “การเข้าซื้อกิจการจาก Multistrada ถือเป็นโอกาสที่ดีเยี่ยมสำหรับมิชลินในการขยายการดำเนินงานในอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และมีกำลังการผลิตที่มีคุณภาพและแข่งขันได้ในทันทีโดยไม่ต้องสร้างโรงงานผลิตใหม่”
Pieter Tanuri ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Multistrada กล่าวว่า “เราภูมิใจในความสำเร็จของ Multistrada และมั่นใจว่ามิชลินจะเป็นพันธมิตรในอุดมคติที่จะนำ Multistrada ไปสู่การเติบโตและความสำเร็จยุคใหม่เพื่อประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและพนักงานทุกคน”
ความร่วมมือด้านการผลิต การขาย และการจัดซื้อที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้คาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 70 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปีภายใน 3 ปีนับจากการซื้อกิจการ โดยมีการประเมินว่าบริษัท Multistrada ซึ่งรวมถึงสัดส่วนการถือหุ้นค้าปลีก 20 เปอร์เซ็นต์ ใน PT Penta และที่ดินจำนวน 50 เอเคอร์มีมูลค่าสุทธิของกิจการราว 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยคิดเป็น 6.3 เท่า EBITDA สำหรับ 12 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2561 หลังความร่วมมือที่คาดการณ์ไว้
หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการเข้าซื้อกิจการนี้ มิชลินจะจ่ายเงิน 439 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นค่าหุ้นของ Multistrada จำนวน 80 เปอร์เซ็นต์ ขึ้นอยู่กับการปรับตัวขณะปิดกระบวนการ และเนื่องจาก Multistrada เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และตามกฎระเบียบของประเทศอินโดนีเซีย มิชลินจะเปิดขายหุ้นหมุนเวียนในตลาดที่เหลืออยู่หลังจากนั้นให้แก่บุคคลทั่วไปในราคาต่อหุ้นเดียวกับที่เสนอขายให้แก่กลุ่มผู้ถือหุ้น 80 เปอร์เซ็นต์ การเข้าซื้อกิจการนี้ได้รับเงินทุนจากแหล่งเงินทุนภายในและคาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตของมิชลิน
COMMENTS